ชื่อเมนูที่มีกลิ่น ขนมตดหมา สมุนไพรอีสานใต้ที่เสริมสมรรถภาพทางเพศ

ชื่อเมนูที่มีกลิ่น ขนมตดหมา
สมุนไพรอีสานใต้ที่เสริมสมรรถภาพทางเพศ

อย่าเพิ่งตกใจไป เมนูนี้ไม่ได้ทำมาจากตดของหมา แต่เป็นชื่อของสมุนไพรท้องถิ่นของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และแสดงถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่น

เครือตดหมา พืชไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่บางพื้นที่เรียก ต้นกระพังโหม ขึ้นได้ทั่วไปในป่าผสมผลัดใบและป่าเต็งรัง หากนำต้นหรือใบมาขยี้แล้วลองดมก็จะรู้เลยว่ากลิ่นเหม็นคล้ายตดจริงๆ แต่เมื่อนำไปทำขนมท้องถิ่นอย่าง ขนมตดหมา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เวือระพอม กลับมีกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหล

ตามที่ ทิดหมู มักหม่วน เขียนไว้ในบทความ ขนมตดหมา เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2565 กล่าวว่า ขนมตดหมาหน้าตาและรสชาติคล้ายขนมจาก โดยส่วนผสมมีแป้งข้าวเหนียว น้ำตาลโตนด น้ำตาลทรายแดง มะพร้าวทึนทึกขูด ทั้งหมดนี้นำมาผสมกับน้ำเครือตดหมา ที่ได้มาจากการนำรากเครือตดหมามาหั่นเป็นแว่นๆ ตากแดดไว้ แล้วจึงนำมาต้มจนได้น้ำเครือตดหมา คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้หนึ่งชั่วโมงเพื่อให้แป้งขึ้น แล้วจึงนำเนื้อขนมมาใส่ใบตองห่อเป็นชิ้นยาวๆ จากนั้นนำใบตองทั้งห่อไปย่างจนสุกหอม พอเสร็จแล้ว กลิ่นหอมของใบตอง และส่วนผสมด้านในก็คละคลุ้งออกมา เนื้อสัมผัสจะนุ่มหนึบ รสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอมจากรากตดหมา ที่เป็นเอกลักษณ์ของขนมชนิดนี้

ทั้งนี้เครือตดหมา ยังช่วยเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยย่อย ลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มฮอร์โมนแอนโดรเจน เสริมสร้างกล้ามเนื้อและสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ชาย โดยที่ไม่มีผลต่อผู้เป็นโรคหัวใจ นับว่าเป็นขนมที่ครบเครื่องทั้งการเป็นอัตลักษณ์ชุมชน อร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพเลยทีเดียว

ขอบคุณข้อมูลจาก : 
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/214734
https://www.isangate.com/new/34-art-culture/food/692-kanom-tod-ma.html

#แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ #สสส #วิสาหกิจเพื่อสังคม #SE #ขนมตดหมา#บุรีรัมย์ #รักสุขภาพ #สมุนไพร #เครือตดหมา

ติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ของแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้ที่ 
Official Web : http://artculture4health.com/ 
Facebook : https://www.facebook.com/artculture4h 
Youtube แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรม สร้างเสริมสุขภาพ : http://bit.ly/3YVFSl5 
Instagram : https://www.instagram.com/artculture.4health/ 
Twitter : https://twitter.com/art_culture4h 
Tiktok : https://www.tiktok.com/@artculture4health