“ข้าวราง” กับข้าวพื้นบ้านโบราณของชาวระยองที่มีความอร่อยแปลกใหม่คล้ายอัลมอนด์ !!

หมวดหมู่ เรื่องเด่น , โดย : Admin Latdawan , 24 เมษายน 68 / อ่าน : 112


“ข้าวราง” กับข้าวพื้นบ้านโบราณของชาวระยองที่มีความอร่อยแปลกใหม่คล้ายอัลมอนด์ !!

 

ถ้าพูดถึงอาหารพื้นบ้านในประเทศไทย หลายคนอาจจะนึกถึงเมนูที่คุ้นเคยกันดีอย่าง "ข้าวคลุกกะปิ" หรือ "ข้าวเหนียวหมูปิ้ง" แต่ในภาคตะวันออกโดยเฉพาะที่ จังหวัดระยอง ก็มีเมนูพื้นบ้านที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่เต็มไปด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง "ข้าวราง" หรือที่บางพื้นที่เรียกว่า “ข้าวรางกระบก” หนึ่งในเมนูอาหารพื้นบ้านโบราณที่ถือเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาวภาคตะวันออก

“ข้าวราง” คือ กับข้าวพื้นบ้านที่ทำจาก เมล็ดกระบก พืชป่าท้องถิ่นของภาคตะวันออกและภาคอีสาน มีลักษณะคล้ายกับมะม่วงกระล่อน เปลือกสีเขียว และการเลือกเก็บส่วนเมล็ดมาทำข้าวรางนั้น จะต้องเป็นเมล็ดที่แห้งแข็งสีน้ำตาลเทา ซึ่งจะต้องรอปล่อยให้เมล็ดที่ตกใต้ต้นค่อยๆ แห้งแข็งเริ่มเก็บได้ราวๆ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม หรือทยอยเก็บมาไว้ตากแดดจนแห้ง และที่สำคัญคือมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงไต และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้อีกด้วย

เเต่!! เเม้จะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงก็ไม่ควรที่จะ“กินดิบ”เพราะเมล็ดกระบกมียางที่ทำให้เมา จึงต้องปรุงผ่านความร้อนให้สุกก่อน

โดยวัตถุดิบในการทำ “ข้าวราง” คือ เมล็ดกระบกประมาณ 200 กรัม เกลือเเละน้ำตาล ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายและในหลายๆบ้านอาจจะมีสิ่งของเหล่านี้

ขั้นตอนการทำ

เริ่มจากกะเทาะเปลือกเมล็ดกระบกด้วยของแข็งหรือมีด (ต้องระวังให้มาก เพราะเปลือกแข็งจนมีดแฉลบได้ง่าย) เมล็ดที่ได้จะยังมีกระพี้หุ้มอีกชั้นเป็นสีน้ำตาล ให้นำไปต้มประมาณ 10 นาที เพื่อให้กระพี้หลุดง่าย หลังจากลอกกระพี้ออก จะได้เนื้อเมล็ดกระบกสีขาวล้วน จากนั้นนำไปคั่วจนเหลืองหอม พอคั่วเสร็จ ให้รีบตำตอนยังร้อน เติมเกลือและน้ำตาลเล็กน้อย ตำจนเนื้อเนียนเหนียว สังเกตจะมีน้ำมันจากกระบกซึมออก หยอดส่วนผสมลงใน กรวยใบขนุน แล้วปล่อยให้เซตตัว สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 1 เดือน หรือหากเก็บในอุณหภูมิห้องก็อยู่ได้นานราว ครึ่งเดือน เวลาจะกินแค่นำไปวางบนข้าวสวยหุงใหม่ ความร้อนจะช่วยให้เนื้อคลายตัว คลุกกินได้อร่อยเหมือนเพิ่งตำสด รสชาติของข้าวรางจะมีความ มัน เค็ม หวานคล้ายเนยถั่ว แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกลิ่นกระบก จะกินกับข้าวสวยร้อน ๆ เป็นกับข้าว หรือจะกินเล่นเป็นของว่างก็ได้เช่นกัน

ในปัจจุบันนี้ “ข้าวราง” เริ่มหากินได้ยากขึ้น เนื่องจากต้นกระบกในธรรมชาติมีจำนวนลดลง และคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่รู้จักเมนูนี้ การสืบสานการทำข้าวรางจึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่แค่เพื่อรักษารสชาติอร่อย ๆ ของอดีต แต่ยังเป็นการ อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนภาคตะวันออกให้คงอยู่ต่อไป

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://krua.co/food_story/krabok-seeds

https://steemit.com/thai/@campingkinteaw/5dbzy9

https://www.thairath.co.th/news/local/east/1069909

แหล่งเว็บไซต์แผนงานสื่อศิลป์

 

ติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ของแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้ที่

Official Web : http://artculture4health.com/

Facebook : https://www.facebook.com/artculture4h

Youtube แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรม สร้างเสริมสุขภาพ : http://bit.ly/3YVFSl5

Instagram : https://www.instagram.com/artculture.4health/

Twitter : https://twitter.com/art_culture4h

Tiktok : https://www.tiktok.com/@artculture4health

#สสส #แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ #ข้าวราง #กระบก #เมนูพื้นบ้าน



ปฏิทินกิจกรรม























แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ
Art & Culture for Health Literacy

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส)
ThaiHealth Promotion Founnation (THPF)

128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza,  16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand

โทรศัพท์ : 02-129-3897-8 โทรสาร : 02-129-3899
อีเมล : [email protected]