อัยการผนึกมูลนิธิเมาไม่ขับ เสนอมาตรการ ''ริบรถ'' คดีเมาแล้วขับ หวังลดอุบัติเหตุร้ายแรง!

หมวดหมู่ เรื่องเด่น , โดย : Admin ploy , 19 มิถุนายน 68 / อ่าน : 183


17 มิถุนายน 2568 – มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าว ณ โรงแรมทีเค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เกี่ยวกับ แนวทางใหม่ในการฟ้องคดีเมาแล้วขับ โดยจะเสนอต่อศาลให้พิจารณาริบรถของผู้กระทำความผิด

โดยมี นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด นายโกเมท ทองภิญโญชัย อธิบดีอัยการ สำนักงานวิชาการ นายวรวุฒิ วัฒนอุตภานนท์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานวิชาการ ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมในการแถลงข่าวชี้แจงแนวทางการปฏิบัติของอัยการทั่วประเทศ

ด้านนายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการมีบทบาทสำคัญในการฟ้องร้องผู้กระทำความผิดเพื่อสร้างความสงบสุขในสังคม โดยเฉพาะคดีเมาแล้วขับที่มีสถิติสูงมาก ในปี พ.ศ. 2567 มีคดีเมาแล้วขับที่ถูกฟ้องต่อศาลทั่วประเทศถึง 101,864 คดี ซึ่ง 10 อันดับแรกที่มีสถิติสูงสุด ได้แก่ 1.จังหวัดชลบุรี 12,346 2.กรุงเทพฯ 11,673 3.จังหวัดนครราชสีมา 7,066 4.จังหวัดอุบลราชธานี 6,038 5.จังหวัดสมุทปราการ 5,557 6.จังหวัดเชียงใหม่ 5,153 7.จังหวัดสุรินทร์ 3,225 8.จังหวัดอุดรธานี 2,696 9.จังหวัดขอนแก่น 2,639 10.จังหวัดระยอง 2,218

รองอัยการสูงสุดชี้ว่า พฤติกรรมเมาแล้วขับเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ใช้รถใช้ถนน แม้จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับอยู่แล้ว แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องปราม วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ตนได้มีหนังสือที่ อส 0007(ปผ)/ว 197 เรื่องแนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น ไปถึง รองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการภาค อัยการพิเศษฝ้าย เลขานุการอัยการสูงสุด เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ อัยการจังหวัด ผู้อำนวยการสถาบัน เลขาธิการสำนักงาน อัยการสูงสุด และผู้อำนวยการสำนักงาน

โดยให้พนักงานอัยการพิจารณาว่าพฤติการณ์ในการขับรถขณะเมาสุราของผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีมีลักษณะเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงถึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (8) หรือไม่ หากเข้าข่ายและยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหานี้ ให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และ ในการฟ้องคดี ให้พนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบรถของกลาง ตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส (สฝปผ.) 0018/ว 380 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549 ตามที่อ้างถึงด้วย

แนวทางใหม่นี้คาดว่าจะช่วยลดพฤติกรรมการเมาแล้วขับได้อย่างมาก ซึ่งปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกในการที่จะไม่เสี่ยงกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเมาไม่ขับได้หลายทางเลือก โดยเลือกใช้บริการรถสาธารณะก็จะปลอดภัยทั้งกับตนเองและไม่ก่อผลกระทบกับผู้อื่นบนท้องถนน เนื่องจากพฤติกรรมการเมาแล้วขับก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก

ด้านนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้กล่าวขอบคุณอัยการสูงสุดที่ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาลต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจปีละกว่า 5 แสนล้านบาท โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 17,000 – 20,000 คน ย้อนหลัง 10 ปี (พ.ศ. 2556 – 2566) คนไทยเสียชีวิตรวมกว่า 2 แสนคน ซึ่งเทียบเท่ากับประชากรทั้งจังหวัดเล็กๆ จังหวัดหนึ่งเลยทีเดียว

นายแพทย์แท้จริงเชื่อมั่นว่าแนวทางที่สำนักงานอัยการสูงสุดออกมา เรื่องการเสนอขอให้ศาลริบรถผู้เมาแล้วขับที่ก่อให้เกิดความเสียหาย จะทำให้ผู้ที่คิดจะเมาแล้วขับต้องใคร่ครวญอย่างหนัก เพราะการถูกริบรถที่ก่อเหตุจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของบุคคลนั้นทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในฐานะที่ทำงานรณรงค์สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมานานกว่า 30 ปี นายแพทย์แท้จริงจึงขอสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่า "ถ้าไม่อยากถูกริบรถ ก็อย่าเมาแล้วขับ"

#สสส

#HClub #HClubNetwork

#แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ



ปฏิทินกิจกรรม























แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ
Art & Culture for Health Literacy

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส)
ThaiHealth Promotion Founnation (THPF)

128/177 ชั้น 16 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
128/177 Phayatai Plaza,  16th Fl., Phayathai Rd., Rajthevee, Bangkok 10400 Thailand

โทรศัพท์ : 02-129-3897-8 โทรสาร : 02-129-3899
อีเมล : [email protected]